หลังจากที่เมื่อคืนทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมของเราได้ชื่นชมความสวยงามของพระอาทิตย์ตกน้ำแบบไม่มีวิวใดมาบดบังที่ตรงด้านหลังที่พักแล้ว เช้าวันนี้ก็รีบตื่นขึ้นมาปฏิบัติภารกิจส่วนตัวพร้อมทั้งเตรียมพร้อมที่จะออกเดินทางไปกับทริปนำเที่ยวหมู่เกาะที่อยู่ใกล้เคียง

     เริ่มต้นที่เรือสปีดโบ้ทมารับพวกเราที่ที่พักบริเวณอ่าวลุงดำ ตอนประมาณ 10.30 น. มีนักท่องเที่ยวในเรือแล้วสองคน จากเรือกัปตันเรือสปีดโบ้ทก็แจ้งให้สมาชิกได้ทราบว่าจะต้องไปเพื่อนร่วมทัวร์ครั้งนี้ที่อ่าวไผ่ และหาดทรายแก้ว ทำให้เรามีโอกาสได้แวะชมบรรยากาศของอ่าว และหาดอื่นของเกาะเสม็ดเป็นของแถม  เมื่อได้สมาชิกเต็มลำเรือก็เริ่มการเดินทางได้ทันที จุดแรกที่พาไปชมคือ เกาะทะลุ (ได้ชื่อมาจากบริเวณด้านหลังเกาะจะเป็นช่องเขาทะลุมองผ่านไปทางด้านหลังได้) และตรงนี้เป็นจุดจอดให้ดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น และปลาที่มากจนละลานตาไปหมด เมื่อเล่นได้สักพัก ไกด์นำเที่ยวของเราก็แบ่งนักท่องเที่ยวเป็นสองกลุ่ม สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการอาบน้ำ ดำน้ำตื้นก็จะให้พักผ่อนเล่นน้ำอยู่บนฝั่ง ส่วนอีกกลุ่ม(มักเป็นชาวต่างชาติ)ที่พิสมัยการตกปลาก็นั่งสปีดโบ้ทไปกลางทะเลแล้วค่อยกลับมาพบกันในเวลารับประทานอาหารกลางวัน สำหรับทีมท่องเที่ยวดอทคอมของเราก็ฝังตัวอยู่บนเกาะ เดินชมหาดทรายขาวสะอาดตา เล่นน้ำทะเลสีฟ้าใส และดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นกันเป็นที่สนุกสนาน เหนื่อยแล้วก็เช่าเตียงผ้าใบ เตียงละ 20 บาทมานอนพักผ่อนรอเวลาทานข้าวกลางวัน

เกาะท้ายค้างคาว เกาะทะลุ และเกาะกุฎี ตามลำดับ

      และแล้วก็ได้เวลาทานข้าวกลางวันเสียที อาหารวันนี้เป็นข้าวผัด บาร์บีคิวไก่ ผลไม้และปลาเก๋ากับปลาทรายแดงจากฝีมือของนักตกปลาถูกย่าง แจกจ่ายกันอย่างทั่วถึงให้กับนักท่องเที่ยวร่วมเรือลำเดียวกัน กินจิ้มกับน้ำปลาพริก รสหวานอ่อน ๆ ของปลาสด ๆ อร่อยจนต้องยกนิ้วให้ รับประทานกันเสร็จแล้วก็ล้างไม้ล้างมือกันในทะเลเพราะว่าไม่มีน้ำจืดบนเกาะให้ใช้ รวมถึงน้ำในห้องน้ำก็เป็นน้ำเค็ม (ดังนั้นคุณผู้หญิงอย่างลืมพกพาทิชชูติดตัวไปด้วยเดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน) ที่บนเกาะมีเจ้ากระต่าย และครอบครัวไก่มาวิ่งเล่นกันใหญ่ เพิ่มสีสันให้กับอาหารมื้อนี้ไม่น้อย เมื่อหนังท้องตึง หนังตาหย่อน แต่ไม่ได้หลับหรอกนะ เนื่องจากว่ายังมีเกาะที่เราต้องไปเยี่ยมชมกันอีก เกาะถัดไปก็คือ เกาะท้ายค้างคาว

บรรยากาศสบาย ๆ กับหาดทรายขาว น้ำทะเลสะอาดสดสวย

ทิวทัศน์หลาย ๆ มุมรอบ ๆ เกาะทะลุ

กระต่าย และครอบครัวไก่ที่อาศัยอยู่ที่เกาะทะลุ

      เกาะท้ายค้างคาว ชื่อก็บ่งบอกได้ในระดับหนึ่งแล้วว่าเกาะนี้มีค้างคาวแน่นอน เหล่าค้างคาวอาศัยอยู่ตามโพรงถ้ำของเกาะ ที่นี่เป็นแหล่งของปะการังน้ำตื้นที่สวยงาม และปลาทะเลหลากสีสันสวยงามกว่าแถวเกาะทะลุ แต่น้ำทะเลสีอาจจะไม่สวยเท่าที่เกาะทะลุ และที่เกาะแห่งนี้ไม่มีหาดทรายกว้าง ๆ ให้ไปนั่งนอนเล่นได้ จึงต้องจอดเรือกลางน้ำแล้วดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นกันรอบ ๆ เรือ เนื่องจากเวลามีไม่มากนัก ไกด์ของเราจึงให้เวลาอยู่ที่เกาะท้ายค้างคาวประมาณครึ่งชั่วโมง ก็เตรียมตัวโบกมือลาเกาะท้ายค้างคาว มุ่งสู่เกาะถัดไปก็คือ เกาะกุฎี

เกาะกุฎี (สองภาพด้านข้าง) และฝูงปลามากมายที่เกาะท้ายค้างคาว

ทิวทัศน์จากจุดชมวิวบนเส้นทางธรรมชาติเกาะกุฎี (ภาพกลาง)

     เกาะกุฎี หาดทรายเป็นหินกรวดเล็ก ๆ กับทรายสีไข่ไก่ มีสำนักงานของอุทยานแห่งชาติตั้งอยู่ และมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้เดิน(ไม่ควรเดินเองเดี๋ยวหลงแม้จะมีป้ายบอก) ไกด์ของทัวร์จะพาเราเดินไปตามเส้นทางธรรมชาติไปชมวิวทิวทัศน์ที่จุดชมวิวบนยอด ชมผานิลมังกร หาดสินสมุทร แหลมรับอรุณ เป็นต้น เส้นทางจะวนกลับมาที่จุดเริ่มต้น เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ ก่อนที่เตรียมจะเดินทางกลับกับสถานที่เที่ยวสุดท้ายคือกระชังเลี้ยงปลาทะเลที่เกาะเสม็ด ระหว่างเส้นทางไกด์ และกัปตันชี้ชวนให้ดูเกาะเล็กเกาะน้อยระหว่างทาง เช่น เกาะขาม (เป็นแหล่งดูปะการังอีกแห่ง และเป็นแหล่งของหอยหวาน ถ้าคลื่นลมเป็นใจอาจมีบางกรุ๊ปได้ไปแวะ) หรือเกาะกรวย รูปร่างเหมือนกรวย ถ้าน้ำลดสันทรายจะโผล่ทำให้เดินถึงกับกับเกาะขามได้ หรือจะเป็นเกาะปลาตีนที่รูปร่างคล้ายคลึงกับปลาตีนจริง ๆ

กระชังเลี้ยงปลาข้างเกาะเสม็ด (เดินกันดีดี เดี๋ยวจะกลายเป็นอาหารปลา)

     และแล้วก็มาหยุดท้ายโปรแกรมการท่องเที่ยววันนี้ที่กระชังเลี้ยงปลาทะเล ในกระชังจะมีปลาทะเลตัวใหญ่ ๆๆๆๆๆ มากๆๆๆๆๆ หลากหลายชนิด ทั้งปลาเก๋า ปลาช่อนทะเล เต่าทะเล ฯลฯ มีอาหารปลา(ปลาขนาดเล็กถุงละ 10 บาท) จำหน่าย เพื่อให้อาหารปลาในกระชังด้วย เมื่อเดินชมจนทั่วกระชังก็ได้เวลาโบกมือลาความคุ้มค่า 600 บาทต่อคนของการเดินทางครั้งนี้